วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ยินดีตอนรับสู่สวนมะนาวแป้นพิจิตร บ้านอันโนง ต.กระหาด อ.จอมพระ จ.สุรินทร์

ยินดีตอนรับสู่สวนมะนาวแป้นพิจิตร บ้านอันโนง ต.กระหาด อ.จอมพระ จ.สุรินทร์

สวนมะนาวแป้นพิจิตรบ้านอันโนงบริการข้อมูลสำหรับผู้สนใจในการทำสวนมะนาว โดยที่สวนของเราจะถ่ายทอดประสบการณ์ทุกอย่างให้ผู้สนใจแบบไม่มีปิดบัง และยังจำกน่ายกิ่งพันธุ์ แป้นพิจิตร1 แป้นดกพิเศษ สามารถมาชมและดูงานได้ที่สวนของเรายินดีต้อนรับทุกท่านครับ

ประกาศ : ช่วงนี้มีกิ่งพันธ์แบบชำลงถุงดำพร้อมปลูก สามารถสั่งซื้อได้ที่ 098-135-8637 คุณดวง
Email : Pongsaykr@gmail.com ,  Facebook : pisan saykrasoon  ,  Line : PONG1802



วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สาระต่างๆที่เกี่ยวกับมะนาว

     การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ และการทำมะนาวนอกฤดู
สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 บ่อ จะใช้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เท่านั้น ซึ่งจะใช้เงินลงทุนมากในช่วงเริ่มแรก ส่วนค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่ที่วงบ่อซีเมนต์และฝารองซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายกิ่งพันธุ์มะนาว, ระบบน้ำ ฯลฯ รวมเป็นเงินในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 วงบ่อ เป็นเงิน 27,000 บาทโดยประมาณ ต้นมะนาวในวงบ่อเมื่อมีอายุต้นเพียง 8 เดือน จะบังคับให้ต้นออกฤดูแล้งได้โดยใช้หลักการเดียวกับการปลูกลงดินคือคลุมพลาสติกให้กับต้นมะนาวในช่วงเดือนกันยายนและกระตุ้นการออกดอกในเดือนตุลาคม จะได้ผลผลิตมะนาวแก่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวราคาแพงที่สุด เท่ากับว่าในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะใช้เวลาเพียงปีเดียวเท่านั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงฤดูแล้ง
     การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
รายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะต้องวัดพื้นที่ กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว วัดระยะการวางวงบ่อ การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำ แท็งก์จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้ 1,200 ลิตรจะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อ จำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน
     การเตรียมดินปลูกมะนาวและขนาดของวงบ่อซีเมนต์
ขนาดของวงบ่อซีเมนต์แนะนำให้เกษตรกรใช้ จะใช้ขนาดวงเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร แต่เดิมฝาวงบ่อคุณพิชัยใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร เท่ากับขนาดของวงบ่อ เมื่อปลูกไปนาน 2-3 ปี พบว่า รากของต้นมะนาวจะโผล่ออกมานอกวงและชอนลงไปในดิน ทำให้ควบคุมในเรื่องของการบังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากมากขึ้น ปัจจุบัน จึงได้แนะนำเกษตรกรและแก้ไขให้ซื้อฝาวงบ่อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของวงบ่อ ใช้ฝาวงบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 90 เซนติเมตร กว้างกว่า 10 เซนติเมตรดินผสมที่จะใช้ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะใช้วัสดุปลูกหลัก 3 ชนิด คือ หน้าดิน 3 ส่วน ขี้วัวเก่า 1 ส่วน และเปลือกถั่วเขียว 2 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน การใช้เปลือกถั่วเขียวจะช่วยให้สภาพดินมีการระบายน้ำที่ดี ถ้าใช้แค่หน้าดินผสมกับขี้วัวจะทำให้ดินปลูกแน่น เวลาให้น้ำไป 3-4 วัน น้ำยังไม่ถึงข้างล่างของวงบ่อ ยังได้ยกตัวอย่างปริมาณของดินที่จะใช้ในการปลูกมะนาว จำนวน 100 วงบ่อ จะต้องใช้หน้าดินประมาณ 1 คันรถสิบล้อ เทคนิคในการผสมวัสดุปลูกจะต้องปูพื้นด้วยหน้าดินเป็นขั้นแรก หลังจากนั้น ใส่ขี้วัวเก่าเป็นชั้นที่ 2 แล้วตามด้วยเปลือกถั่วเขียวเป็นชั้นบนสุด หลังจากนั้นใช้เครื่องตีพรวนติดรถไถจะเร็วกว่าใช้แรงงานคน
     การใส่วัสดุปลูกลงบ่อซีเมนต์มีเทคนิค
ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ส่วนใหญ่จะใส่วัสดุปลูกในวงบ่อซีเมนต์เพียงเสมอวงบ่อเท่านั้น เมื่อรดน้ำไปได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว วัสดุปลูกจะยุบตัวลงมาประมาณ 1 คืบมือ ถ้าเกษตรกรเติมวัสดุปลูกลงไปจะไปกลบลำต้นมะนาว ปัญหาเรื่องโรคโคนเน่าจะตามมา ดังนั้น ในการใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์จะต้องใส่ให้พูนเป็นภูเขาเลย และที่จะต้องเน้นเป็นพิเศษขณะที่ใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อนั้นคือ จะต้องขึ้นเหยียบวัสดุปลูกขอบๆ วงบ่อ บริเวณตรงกลางไม่ต้องเหยียบ การใส่วัสดุปลูกให้เป็นภูเขาจะช่วยในเรื่องดินยุบลงมาเสมอวงบ่อได้นานถึง 1 ปี
     วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
หลังจากที่ใส่วัสดุปลูกลงในบ่อซีเมนต์เรียบร้อยแล้ว ให้เกษตรกรขุดเปิดปากหลุมให้มีขนาดเท่ากับขนาดของถุงที่ใช้ชำต้นมะนาว (โดยปกติถ้าใช้กิ่งตอนมะนาว ควรจะชำต้นมะนาวไว้นานประมาณ 1 เดือน เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อต้นมะนาวที่ชำมานานแล้วหลายเดือน หรือชำค้างปี เนื่องจากจะพบปัญหาเรื่องรากขด ทำให้เจริญเติบโตช้าหรือต้นแคระแกร็น) รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น สูตร 16-16-16 อัตราประมาณ 1 กำมือ ถอดถุงดำปลูกต้นมะนาวให้พอดีกับระดับดินเดิม กลบดินแล้วใช้เท้าเหยียบรอบๆ ต้น เพื่อไม่ให้โยกคลอน ปักไม้เป็นหลักกันลมโยกและแนะนำให้ใช้ตอกมัดต้นมะนาวไว้กับหลัก ตอกจะผุเปื่อยหลังจากปลูกไปนานประมาณ 2 เดือน ต้นมะนาวตั้งตัวได้แล้ว แต่ที่หลายคนได้ใช้ปอฟางหรือพลาสติคทาบกิ่งมัดกับหลักจะอยู่ได้นานก็จริง แต่ปัญหาที่จะตามมาจะทำให้ลำต้นมะนาวคอด มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้น หลังจากปลูกเสร็จให้เดินท่อ PE เจาะหัวมินิสปริงเกลอร์และวางท่อ PE พาดไปกับวงบ่อเลยเพื่อสะดวกต่อการทำงาน
ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ได้ตลอดทั้งปี
ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกไปแล้วนับไปอีก 8 เดือน เกษตรกรสามารถบังคับให้ต้นออกดอกได้ ถ้าเกษตรกรจะบังคับให้มะนาวออกฤดูแล้งในรุ่นแรกแนะนำให้ปลูกต้นมะนาวในช่วงเดือนมกราคม ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ในปีเดียวกันบังคับต้นให้ออกดอกได้โดยใช้หลักการเหมือนกับที่ปลูกลงดิน ผลผลิตมะนาวฤดูแล้งจะไปแก่และเก็บผลผลิตขายได้ราคาแพงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของปีถัดไป เท่ากับว่าการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้เวลาปลูกเพียงปีเศษเท่านั้น เกษตรกรสามารถเก็บมะนาวฤดูแล้งขายได้
     วิธีการรดน้ำต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ทำอย่างไร
ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ให้ใช้พลาสติคคลุมปากบ่อซีเมนต์เพื่อป้องกันน้ำหรือฝนที่ตกลงมาในช่วงแรกๆ แต่พบปัญหาว่าเมื่อเกษตรกรนำพลาสติคไปคลุมกลับรักษาความชื้นให้กับต้นมะนาวใช้เวลานานวันกว่าดินจะแห้ง หรือเลือกใช้หลักการ ฝนทิ้งช่วงในแต่ละปีช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี จะมีช่วงเวลาที่ฝนทิ้งช่วง ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกัน 3-4 วัน ดินในวงบ่อจะเริ่มแห้ง ใบมะนาวจะเริ่มเหี่ยว หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นให้ต้นมะนาวออกดอกและติดผลได้
ผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ 2 รุ่น ต่อปี
ในช่วงเริ่มแรกของการบังคับมะนาวฤดูแล้งจะทำให้ต้นมะนาวออกดอกเพียงรุ่นเดียวคือ ช่วงเดือนตุลาคมและไปเก็บผลผลิตในช่วงเดือนเมษายนเท่านั้น ทำให้จะต้องคอยปลิดดอกมะนาวทิ้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน แต่ช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาสภาวะตลาดมะนาวผลผลิตจะเริ่มมีราคาดีตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยไปจนถึงเดือนเมษายน จึงปล่อยให้มะนาวให้ผลผลิต 2 รุ่น คือมีผลผลิตขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์รุ่นหนึ่ง (บังคับให้ต้นออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม) และมีผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนอีกรุ่นหนึ่ง (บังคับให้ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม) พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคมของทุกปีราคามะนาวจะถูกลง จะตัดแต่งกิ่งมะนาวในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งปลิดผลมะนาวที่ติดอยู่บนต้นทิ้งให้หมด
ตัดแต่งกิ่งมะนาวในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี
ตัดแต่งกิ่งมะนาวตาฮิติในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก ทุกๆ 3 ปี โดยจะเริ่มตัดแต่งกิ่งและปลิดผลทิ้งทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม ในช่วงปีที่ 1-2 จะตัดแต่งบ้างแต่ไม่มากนัก จะมาตัดแต่งหนักเมื่อต้นมีอายุประมาณ 3 ปี ซึ่งในช่วงนั้นมักจะพบว่าต้นมะนาวเริ่มโทรม มีกิ่งแห้งเป็นจำนวนมาก การตัดแต่งกิ่งมีผลทำให้ต้นมะนาวแตกกิ่งออกมาใหม่และได้ผลผลิตมะนาวที่มีคุณภาพ หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จในเดือนพฤษภาคม ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม เป็นช่วงบำรุงต้นและสะสมอาหารเพื่อจะกระตุ้นการออกดอกรุ่นแรกในเดือนสิงหาคม
     เทคนิคการเปิดตาดอก
เมื่อใบมะนาวเหี่ยวและเริ่มร่วงหรือเหลือใบยอดเพียง 1 คืบ จะเปิดตาดอกโดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีตัวกลางสูง เช่น สูตร 15-30-15 หรือ 12-24-12 อัตรา 1 กำมือ ใส่ให้กับต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ รดน้ำจนเห็นว่าปุ๋ยละลายจนหมด (ช่วงการให้ปุ๋ยนี้ไม่แนะนำให้เปิดน้ำด้วยหัวสปริงเกลอร์ ควรจะให้น้ำด้วยสายยางจะดีกว่า) และยังได้แนะนำก่อนว่า ก่อนที่จะให้ปุ๋ยควรเปิดน้ำให้กับต้นมะนาวจนดินชุ่มเสียก่อน จะรดน้ำด้วยสายยาง 2-3 ครั้ง ทุกๆ 3-5 วันสำหรับการฉีดพ่นฮอร์โมนหรือธาตุอาหารทางใบควรฉีดพ่นอย่างเต็มที่ ฉีดพ่นด้วยฮอร์โมน โปรดั๊กทีฟ อัตรา 20 ซีซี ผสมกับสารเทรนเนอร์ อัตรา 10 ซีซี และปุ๋ยทางใบ สูตร 0-52-34 อัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ (20 ลิตร) ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 5-7 วัน หลังจากนั้นต้นมะนาวจะเริ่มออกดอกและติดผลไปแก่ในช่วงฤดูแล้ง
     การทำมะนาวนอกฤดู
การบังคับมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์
1. แปลงนี้ปลูก มะนาวพันธุ์ตาฮิติ และพันธุ์แป้น อายุประมาณ 4 ปี ทั้งหมด 600 วงในเนื้อที่ 2 ไร่เศษ
2. การให้น้ำระบบมินิสปริงเกอร์ ให้น้ำเช้า เย็น
3. มะนาวจะราคาแพงที่สุดคือช่วงเดือน มีนาคม เมษายน ของทุกปี ดังนั้นเมื่อเก็บผลผลิตหมดในเดือน
พฤษภาคม ให้รีบดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
- ตัดแต่งกิ่ง เด็ดผลที่เหลือบนต้นออก เพื่อบำรุงต้น เร่งการสร้างยอดใหม่ ใบใหม่โดย ผลมะนาวที่คุณภาพดีที่สุดคือผลที่เกิดจากยอดใหม่ ผลที่เกิดจากกิ่งเก่าคุณภาพจะด้อยลงมา ผลที่คุณภาพต่ำสุดคือผลที่เกิดติดกิ่ง หลังตัดแต่งกิ่งเสร็จใช้ปุ๋ยเคมี 15 – 15 – 15 ใส่หนึ่งกำมือต่อวง คุณพิชัยให้เหตุผลว่าหากไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ต้นจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควร และพบอาการผลเหลืองที่ไม่ได้เกิดจากอาการม้านแดดมากกว่าปกติ เนื่องจากการให้ผลผลิตในปีที่ผ่านมา
ต้นมะนาวใช้ธาตุอาหารในการเลี้ยงลูกในปริมาณที่มาก
- เพิ่มวัสดุปลูกในวงบ่อเนื่องจากในแต่ละปีวัสดุปลูกจะยุบลง เพิ่มกาบมะพร้าวบริเวณโคนต้น เนื่องจากาบ
มะพร้าวผุพังไปบ้างในปีที่ผ่านมา กาบมะพร้าวเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บรักษาความชื้นได้อย่างดี และยังเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บ
รักษาปุ๋ยที่จ่ายมาทางระบบน้ำก่อนจะค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้ต้นมะนาวใช้ ป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารอัน
เกิดจากการไหลบ่า หรือการระเหย
- การให้ปุ๋ยชีวภาพซึ่งได้จากการหมักหอยเชอรี่30 กก. เศษผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. เชื้อพด.
2 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร สูตรนี้สามารถใช้ฉีดพ่นทางใบ ในอัตรา 20 – 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรได้ ในส่วนของ
การให้ทางระบบน้ำนั้น เทคนิคคือใช้ปุ๋ยชีวภาพในอัตรา 5 ลิตร ต่อน้ำ 1,250 ลิตร ให้ทุก 5 – 7 วัน โดยใน
การให้จะให้ครั้งละ 3 – 5 นาทีเพื่อให้กาบมะพร้าวบริเวณโคนต้นชุ่มก็พอ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตาม รอบปกติ น้ำจะ
ค่อย ๆ ละลายธาตุอาหารลงไปให้ต้นมะนาวใช้ เป็นการจัดการที่ประหยัดปุ๋ย ใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

- ในระยะนี้ต้องรักษาใบและยอดให้ดี เนื่องจากมีโรค แมลงที่สำคัญเข้าทำลายในระยะยอดอ่อนถึงเพสลาดคือ เพลี้ยไฟ และโรคแคงเกอร์ ในเรื่องสารเคมีคุณพิชัยให้แนวคิดว่าบางระยะยังต้องมีการใช้อยู่ แต่ต้องเลือกใช้ในระยะที่
ปลอดภัยต่อผู้บริโภค คือใช้ในระยะก่อนเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 2 เดือน เนื่องจากแปลงเรียนรู้นี้ปลูกทั้งพันธุ์ตาฮิติ และพันธุ์แป้นคละกันไป พันธุ์แป้นอ่อนแอต่อโรคแคงเกอร์มาก
- หลักการใช้สารเคมีในแปลงมะนาว นอกจากเพลี้ยไฟ โรคแคงเกอร์แล้วยังมีโรคและศัตรูอื่น ๆ อีก เช่น หนอนชอนใบ หนอนกัดกินใบ แมลงค่อม โรคยางไหล โรคราเข้าขั้ว การเลือกใช้ชนิดของ
สารเคมีและระยะที่ใช้จึงมีความจำเป็น หากอยู่ในระยะที่ใช้สารเคมีได้ เพลี้ยไฟ และหนอนชอนใบมีสารเคมีที่ คุณพิชัยเลือกใช้ในการป้องกันกำจัดคือ อะบาแม็กติน อัตรา 3 – 10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ( ทั้งนี้อัตราการใช้แล้วแต่ความเข้มข้นของแต่ละบริษัทที่ผลิต ) หากพบการระบาดมากจะใช้สาร อิมิดาคลอพริด อัตรา 3 – 5 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร แมลงค่อมหรือด้วงปีกแข็งใช้สารคาร์โบซัลแฟน อัตรา 20 – 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไซเปอร์เมทริน อัตรา 5 – 10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร โรคราเข้าขั้วใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราแมนโคเซ็บ อัตรา 20 – 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคาร์เบ็นดาซิม อัตรา 10 – 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ความถี่ในการฉีดพ่น ทุก 7 – 15 วัน หรือแล้วแต่สภาพการระบาดของโรคแมลง นอกเหนือจาก
ระยะนี้แล้ว 2 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว คุณพิชัยเลือกใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีฤทธิ์ไล่ และกำจัดแมลง โดยใช้น้ำหมักที่หมักจาก
สมุนไพรที่ มีรสเผ็ด ขม เหม็น เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด บอระเพ็ด สะเดา ใช้สมุนไพรดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง
30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. พด. 7 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 30 ลิตร หมัก 20 วัน นำมาฉีดพ่นในอัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20
ลิตรทุก 7 – 15 วัน
- เนื่องจากมะนาว มีอายุ ประมาณ 5 เดือนสามารถเก็บขายได้ในเดือนที่ 6 การวางแผนการบังคับให้ออกนอกฤดู คือต้องทำให้ออกดอก เดือนตุลาคม เดือนกันยายนต้องงดปุ๋ย งดน้ำ จากประสบการณ์ของคุณพิชัยจะเลือกใช้จังหวะฝนทิ้งช่วงประมาณ 7 – 15 วัน เป็นการงดน้ำไปในตัว เนื่องจากมะนาวแปลงนี้ 600 วง คุณพิชัยจัดการเพียง
คนเดียวจึงไม่สะดวกที่จะเลือกใช้พลาสติกคลุม เพราะพลาสติกก่อให้เกิดไอน้ำเกาะบริเวณผิวด้านในพลาสติก ลดความชื้น
ในดินยาก หากจะให้ได้ผลดี ในวันที่แดดออกต้องแกะพลาสติกออกให้น้ำระเหย หากฝนตกต้องคลุมพลาสติก เป็นการจัดการที่ยากในกรณีที่ไม่มีแรงงานเพียงพอ
- งดน้ำจนใบเหี่ยว สลด และหลุดร่วงประมาณ 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นให้น้ำตามปกติ ปุ๋ยเคมีที่ใช้เพื่อเปิดตาดอกในระยะนี้คือ ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูงเช่น 12 – 24 – 12 หรือ 15 – 30 -15 ปริมาณ 1 กำมือต่อวงรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ปุ๋ยละลาย
- หลังติดดอกแล้วให้น้ำตามปกติเช้า เย็น เวลาละ 5-10 นาที
- ปุ๋ยทางดินที่คุณพิชัยใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี ตลอดฤดูการผลิตคือปุ๋ยอินทรีย์ที่หมักจากเศษพืช มูลสัตว์ กากหอยเชอรี่ เป็นการลดต้นทุนการผลิต ลดภาวะดินเสื่อมโทรม ปรับสภาพดินให้สมบูรณ์ อย่างยั่งยืน

ต้นทุนในการปลูกมะนาว

มะนาวที่ปลูกแล้วสามารถควบคุมปัจจัยองค์ประกอบเช่นบังคับออกลูกได้นั้น วัสดุที่ใช้ปลูกนั้นมาลงตัวที่วงบ่อซีเมนต์ เพราะมีอายุการใช้งมานที่ยาวนาน แต่ราคาสูงรวมถึงอุปกรณ์ประกอบต่างๆด้วย เกษตรกรมือใหม่หลายท่านยังไม่ทราบว่าต้นทุนและอุปกรณ์ที่ใช้นั้นมีอะไรบ้างและราคาเท่าไหร่ซึ่งมีสอบถามกันเข้ามามากถึงเรื่องนี้ ดังนั้นผู้เขียนจึงคิดราคาต้นทุนโดยอ้างอิงราคาที่จังหวัดพิจิตร ที่ผู้เขียนอาศัยอยุ่ ส่วนจังหวัดอื่นๆราคาอาจจะบวกลบนิดหน่อย

ค่าเฉลี่ยของวัสดุในการปลูกใน 1 วงบ่อซีเมนต์
 - วงบ่อซีเมนต์ขนาด กว้าง 80 เซนติเมตร สูง 40 เซนติเมตร พร้อมฝารอง ราคาชุดละ 190 บาท
 - หน้าดินหากซื้อตกคันรถละ 500 บาท ใน 1 คันรถจะใช้ได้ ประมาณ 25 วงบ่อเฉลี่ย วงบ่อละ 20 บาท
 - มูลสัตว์เช่น วัวหรือควายบรรจุ 1 กระสอบปุ๋ย ราคากระสอบละ 20 บาท โดยใน 1 วงบ่อใช้ ครึ่งกระสอบเฉลี่ยคือวงบ่อละ 10 บาท
 - ปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้ผสมเพื่อเพิ่มจุลินทรยืในดิน วงบ่อละ 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 7 บาท
 - แกลบเผาซื้อจากโรงสีราคา คันรถกะบะแบบมีลูกกรง คันละ 500 บาท ใช้ได้ประมาณ 250 วงบ่อ เฉลี่ยวงบ่อละ 2 บาท
 - ค่าแรงงานคนผสมดินกับวัสดุอื่นพร้องลงใส่ลงวงบ่อเฉลี่ยวงละ 30 บาท
 - ต้นพันธุ์มะนาวคุณภาพดีพร้อมปลูก ราคาต้นละ 50 บาท
 - อื่นๆเช่นค่าน้ำมันรถ ค่าน้ำ ค่าอาหาร เฉลี่ยวงบ่อละ 10 บาท

ดังนั้นในขั้นต้นสามารถสรุปได้ว่า ในการปลูกมะนาวลงวงบ่อซีเมนต์นั้นจะมีต้นทุนวงบ่อละ 319 บาทโดยประมาณทั้งนี้ราคาจะเพิ่มหรือลดอาจจะขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด หรือจะลดต้นทุนเช่นแรงงานคนนำดินมาใส่วงบ่อถ้าสามารถทำเองได้ราคาต้นทุนก็จะต่ำลงด้วย ผู้ที่สนใจที่จะปลูกมะนาวในวงซีเมนต์นั้นสามารถวางงาบประมาณในการปลูกแต่ละต้นไว้ได้เลยคือต่อต้นต่อวงนั้นประมาณ 319 บาท ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมระบบน้ำซึ่งอุปกรณ์ระบบน้ำนั้นต่องคำนวนว่าปลูกจำนวนมากหรือน้อย ผู้เขียนจะแจงแต่ราคาไว้ให้ทราบเท่านั้นโดยราคาอุปกรณ์ระบบน้ำมีดังนี้
ท่อไมโคร pe  ขดละ 150 บาท


 - ท่อ PVC สำหรับเดินเป็นท่อประธาน ขนาด 2 นิ้ว ความยาว 4 เมตร ราคาเส้นละ 80 บาท
 - ท่อ PE สำหรับเดินระบบขนาด 20 มิลลิเมตร ความยาว 200 เมตร ชุดละ 790 บาท
 - ขาปักสำหรับมินิสปริงเกอร์ ขาละ 5 บาท
 - หัวมินิสริงเกอร์แบบกินน้ำน้อยหัวละ 3 บาท
 - สายไมโคร pe ขดละ 150 บาท
 - ตัวต่อระหว่างสายไมโคร pe กับท่อ PE ราคาตัวละ 1 บาท
 - ตัวเจาะท่อ PE ราคา 70 บาท

จากราคาระบบน้ำที่แจงให้ทราบม่านสามารถคำนวนได้เลยว่าต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่เนื่องจากระบบน้ำจะต้องรู้จำนวนต้นที่ปลูกแน่นอนว่าปลูกกี่ต้น ในขั้นนี้ผู้ที่สนใจปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ ก็สามารถรู้ถึงต้นทุนคร่าวๆได้แล้วว่าจะใช้งบประมาณสักเท่าไหร่ ในการลงทุนครั้งนี้ โดยผู้เขียนแนะนำว่าให้ทำเป็นมะนาวนอกฤดูขายเท่านั้นคือขายช่วง มกราคม - กลางเดือนพฤษภาคม เท่านั้น ส่วนช่วงเดือนอื่นๆให้ใช้เวลาในการบำรุงและฟื้นฟูต้น รับรองได้ว่าครั้งแรกของการเก็บเกี่ยวท่านก็จะคืนทุนที่ลงไปแล้ว และขอเป็นกำลังใจในความตั้งใจทุกคนครับ


ตัวอย่างผังระบบน้ำ
ความรู้เพิ่มเติม
 - เกี่ยวกับระบบน้ำ



วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สาระน่ารู้เรื่องของมะนาว

มะนาว ผลกลมที่มีรสเปรี้ยว สีเขียว สีเหลือง ลูกเล็กใหญ่ต่างไปตามสายพันธุ์ แม้จะขึ้นอยู่ในทวีปแถบโซนใด มะนาวก็คือมะนาวไม้ผล ที่มีรสเปรี่ยวยากจะลืมเลือน ด้วยรสชาติที่เปรี่ยวบาดปากทำให้ไม่อยากจะเชื่อว่า มะนาวคือพี่น้องสายพันธุ์เดียวกับส้มที่หลายคนนิยมชื่นชอบ มะนาวก็ไม่ต่างจากส้มที่มีมากหลากหลายสายพันธุ์ ตามถิ่นที่ปลูก ประเทศไทยเองก็มีพันธุ์ยอดนิยม ที่ปลูกกันมาก อาทิเช่น  
 1. มะนาวไข่ ที่คนไทยมักนำมาทำมะนาวดอง เนื่องจากมีเปลือกบาง ผลมีลัษณะกลม หัวท้ายยาว มีสีครายไข่เป็ด ผลโตมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-3 เซนติเมตร  
2. มะนาวแป้น เป็นพันธุ์ที่มีน้ำมาก นิยมนำมาทำน้ำมะนาวดื่ม มีกลิ่นหอม ผลกลมแป้น และมีขนาดใหญ่กว่ามะนาวไข่ 
3. มะนาวทราย นิยมปลูกมากที่สุด เนื่องจากให้ลูกดกตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่ไม่นิยมนำมาบริโภคเพราะน้ำไม่หอมและรสขมปนมักปลูกเป็นไม้ประดับ ด้วยทรงพุ่มที่สวยงาม  
 
มะนาว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Citrus aurantifolia (Christm.& Panz.) Swing.วงศ์ RUTACEAE เป็นไม้ยืนต้นมีทรงพุ่มสูงประมาณ 2-4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวหนา รูปไข่ ผิวใบไม้มีน้ำมันรสขม ก้านใบมีครีบเล็กๆ ดอกออกเป็นช่อสั้นๆ ที่ปลายกิ่งและที่ซอกใบดอกมีสีขาวและกลิ่นหอมอ่อนๆ ร่วงง่าย ผลเป็นผลกลม สีเขียว ผิวเรียบเกลี้ยง ฉ่ำน้ำ ผลแก่มีสีเหลือง รสเปรี้ยวจัด    
  เจ้าผลกลมเล็กๆ ไม่เพียงมีรสเปรี้ยวจี๊ด แต่ทางด้านการนำมาใช้ประโยชน์มากมาย จากรสเปรี้ยวนั้แหละเป็นที่ทราบกันดีว่า มะนาวเป็นพืชที่มีวิตามินสูงมาก โดยวิตามินชนิดนี้จะช่วยในการป้องกันโรคลักปิดลักเปิด โรคหวัด และยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสในร่างกาย ใครที่มีปัญหาด้านสุขภาพด้านสุขภาพเจ็บป่วยเป็นหวัดบ่อยอาจหันมาใช่วิธีการง่ายๆ โดยการดื่มน้ำมะนาววันละ 1 ลูก ก็จะช่วยป้องกันโรคภัยให้ร่างกายได้ แต่เนื่องจากน้ำมะนาวมีความเปี่ยวมากจึงมีฤทธิ์เป็นกรด ในการรับประทานก็ควรจะรับประทานในขณะที่ท้องไม่ว่าง เพื่อป้องกันกรดที่จะกัดกระเพาะอาหารได้ จากกรดธรรมชาตินี้เอง จึงเป็นที่มาของกรดน้ำมะนาวมาใช้ในการทำให้เนื้อนุ่มก่อนที่จะนำมาประกอบอาหาร เปลือกมะนาวที่เหลือก็นำมาใช้ถูข้อศอก หัวเข่า ที่ด้านช่วยให้ผิวนุ่มหรือจะนำมาโรยด้วยเกลือ ใช้ขัดก๊อกน้ำหรือเครื่องทองเหลือง ทองแดง เพื่อให้เกิดความเงางาม เป็นประกายเหมือนใช้ของใหม่อยู่ตลอดเวลา
การใช้ประโยชน์ด้านสมุนไพรของมะนาว มีดังนี้คือ 
1. ใบ - ใช้สด นำมาต้มกิน ใช้เป็นยาแก้ไอ ละลายเสมหะ แก้ท้องอืด ท้องเสีย ช่วยขับลม และทำให้เจริญอาหาร 
2. ผล - ใช้ผลสด นำมาคั้นน้ำกิน หรือกินสด เป็นยาแก้ กระหาย แก้ร้อนใน บำรุงธาตุ เจริญอาหาร แก้เลือดออกตามไรฟันและถ่ายพยาธิ หรือใช้ผลดองเกลือจนเป็นน้ำสีน้ำตาล ใช้เป็นยาขับเสมหะทำให้ชุ่มคอ    
3. เปลือกผล -  ใช้เปลือกผลแห้ง ต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้จุกเสียด แน่น แก้ปวดท้อง ขับเสมหะ บำรุงกระเพาะอาหาร ขับลม     4. ราก - ใช้รากสด นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้การฟกช่ำจากการถูกกระแทก หรือการหกล้มแก้ปวด และแก้พิษสุนัขบ้า      สารเคมีและสารอาหารสำคัญ ในเปลือกของมะนาว มีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งประกอบด้วย limonene,linalool,terpineol ในน้ำมะนาว มีสารเคมีเช่น Siaronoid,Organic acid,citral และวิตามินซี คุณค่าทางอาหารของมะนาว ประกอบด้วย น้ำ 89.37 เปอร์เซนต์ แคลเซียม 0.033 เปอร์เซ็น ฟอสฟอรัส 0.024 เปอร์เซ็น เหล็ก 0.0006 เปอร์เซ็นต์ และโปรแตสเซียม 0.193 เปอร์เซ็นต์       
   มะนาวเป็นเพืชที่ให้ผลผลิตดีในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือน สิงหาคม ซึ่งถือเป็นช่วงที่มะนาวล้นตลาด จนบ้างคนเรียกว่าตลาดแตกเลยที่เดียว ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกจะต้องทนรับราคาถูกแสนถูก เหมือนซื้อแล้วได้เปล่า ต่างจากช่วงเดือนเมษานที่ผลผลิตมะนาวยังมีออกสู่ตลาดไม่มากนักทำให้ราคาไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป คนปลูกยิ้มได้ คนซื่อก็พอใจแต่เมื่อถึงฤดูกาลที่มะนาวออกมามากก็นับผู้บริโภคเอง เนื่องจากประโยชน์ของมะนาวมีมากไม่เพียงปรุงแต่งรสชาติอาหาร แต่ยังรวมไปถึงประโยชน์ในการเป็นเครื่องสำอางราคาถูก  
   มะนาวสามารถนำมาใช้เป็นครีมทาผิว ทำได้โดยนำมะนาวมาผ่าซีก ใช้ทาตามแขนขา หรือส้นเท้า หรืออาจใช้เปลือกมะนาว ที่คั้นน้ำออกแล้วทาบริเวณมือ ก็จะช่วยให้มือนิ่มนุ่มนวล ซึ่งการทำเช่นนี้จะช่วยให้ผิวสนชื่นเปล่งปลั้ง ไม่แห้ง      หรือจะนาทำน้ำยาดับกลิ่นปาก โดยก่อนการแปรงฟันเตรียมน้ำมะนาวให้พร้อม ตัดผ้าขาวบางเป็นชิ้นเล็กตามขนาดที่ต้องการแปรงฟันตามปกติเมื่อเสร้จแล้วให้เทน้ำมะนาวลงไปในผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ จากนั้นนำอมในปาก หรือหันมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆแล้วพันด้วยผ้าขาวบางอมไว้ได้เช่นกัน การทำเช่นนี้น้ำมะนาวจะค่อยๆซึมผ่านออกสู่ไรฟัน ช่วยรักษารากฟัน กลิ่นปาก ทำให้หายใจโล่ง แก้ร้อนในกระหายน้ำ
      มีความพยายามเป็นอย่างมากที่จะนำมะนาวมาใช้ประโยชน์ หรือแปรรูปเพื่อมูลค่า ซึ่งสามารถทำได้หลายรูปแบบ เช่น มะนาวดองเปรี้ยว หวานมะนาวแช่อิ่ม มะนาวผง น้ำมะนาว รวมทั้งวิธีต่างๆ ที่จะยืดอายุมะนาวให้นานขึ้นทั้งในรูปแบบของการเก็บรักษา เช่น การฝังมะนาวลงในกระบะทราย การคั้นน้ำมะนาวเก็บไว้ หรือแม้แต่การใช้ภูมิปัญญาด้วยการเจาะมะนาวเป็นรูเล็กๆ เมื่อต้องการใช้ในปริมาณน้อย บีบเอาน้ำออก เมื่อใช้เสร้จแล้วก็นำเนยแข็งมาอุดรูไว้ก็จะช่วยประยัดไม่ต้องเสียมะนาวไปทั้งลูก      ส่วนการใช้ประโยชน์ในต่างประเทศมีรายงานพบว่า มีการใช้มะนาวเป็นยาคุมกำเนิดมาตั้งแต่อดีตแถบบริเวณเมดิเตอร์เรเนียนด้วยการใช้สำลีชุบน้ำมะนาวแล้วสอดเข้าไปในช่องคลอดก่อนการมีเพศสัมพันธ์ กรดซิตริกที่มีอยู่ 5 % จะช่วยให้เสปิร์มไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าไปได้จำนวนครึ่งหนึ่งในเวลา 5 นาที วิธีการนี้อาจมีการใช้กันในบางพื้นที่ แต่สำหรับประเทศไทยคงต้องมีการศึกษาและการวิจัยความเหมะสมและความเสี่ยงกันอย่างจริงจังก่อนที่จะนำใช้เพื่อลดปัญหาและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
       มะนาว พืชใกล้ตัว ไม่เพียงอยู่ในครัวแต่ยังขจรไปทั่ว จากสรรพคุณและประโยชน์ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัย และที่สำคัญราคายังถูกอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2556

การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ ทำมะนาวนอกฤดู

สวนมะนาวนอกฤดู

การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ และการทำมะนาวนอกฤดู
 
สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 บ่อ จะใช้เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เท่านั้น ซึ่งจะใช้เงินลงทุนมากในช่วงเริ่มแรก ส่วนค่าใช้จ่ายหลักจะอยู่ที่วงบ่อซีเมนต์และฝารองซึ่งเมื่อรวมค่าใช้จ่ายกิ่งพันธุ์มะนาว, ระบบน้ำ ฯลฯ รวมเป็นเงินในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จำนวน 100 วงบ่อ เป็นเงิน 27,000 บาทโดยประมาณ ต้นมะนาวในวงบ่อเมื่อมีอายุต้นเพียง 8 เดือน จะบังคับให้ต้นออกฤดูแล้งได้โดยใช้หลักการเดียวกับการปลูกลงดินคือคลุมพลาสติกให้กับต้นมะนาวในช่วงเดือนกันยายนและกระตุ้นการออกดอกในเดือนตุลาคม จะได้ผลผลิตมะนาวแก่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่มะนาวราคาแพงที่สุด เท่ากับว่าในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะใช้เวลาเพียงปีเดียวเท่านั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงฤดูแล้

การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์

รายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะต้องวัดพื้นที่ กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว วัดระยะการวางวงบ่อ การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำ แท็งก์จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้ 1,200 ลิตรจะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อ จำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน

การทำมะนาวนอกฤดู

การบังคับมะนาวนอกฤดูในวงบ่อซีเมนต์
1. แปลงนี้ปลูก มะนาวพันธุ์ตาฮิติ และพันธุ์แป้น อายุประมาณ 4 ปี ทั้งหมด 600 วงในเนื้อที่ 2 ไร่เศษ
2. การให้น้ำระบบมินิสปริงเกอร์ ให้น้ำเช้า - เย็น
3. มะนาวจะราคาแพงที่สุดคือช่วงเดือน มีนาคม – เมษายน ของทุกปี ดังนั้นเมื่อเก็บผลผลิตหมดในเดือน
พฤษภาคม ให้รีบดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
- ตัดแต่งกิ่ง เด็ดผลที่เหลือบนต้นออก เพื่อบำรุงต้น เร่งการสร้างยอดใหม่ ใบใหม่โดย ผลมะนาวที่คุณภาพดีที่สุดคือผลที่เกิดจากยอดใหม่ ผลที่เกิดจากกิ่งเก่าคุณภาพจะด้อยลงมา ผลที่คุณภาพต่ำสุดคือผลที่เกิดติดกิ่ง หลังตัดแต่งกิ่งเสร็จใช้ปุ๋ยเคมี 15 – 15 – 15 ใส่หนึ่งกำมือต่อวง คุณพิชัยให้เหตุผลว่าหากไม่ใช้ปุ๋ยเคมีเลย ต้นจะไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าที่ควร และพบอาการผลเหลืองที่ไม่ได้เกิดจากอาการม้านแดดมากกว่าปกติ เนื่องจากการให้ผลผลิตในปีที่ผ่านมา
ต้นมะนาวใช้ธาตุอาหารในการเลี้ยงลูกในปริมาณที่มาก
- เพิ่มวัสดุปลูกในวงบ่อเนื่องจากในแต่ละปีวัสดุปลูกจะยุบลง เพิ่มกาบมะพร้าวบริเวณโคนต้น เนื่องจากาบ
มะพร้าวผุพังไปบ้างในปีที่ผ่านมา กาบมะพร้าวเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บรักษาความชื้นได้อย่างดี และยังเป็นวัสดุที่ช่วยเก็บ
รักษาปุ๋ยที่จ่ายมาทางระบบน้ำก่อนจะค่อย ๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารให้ต้นมะนาวใช้ ป้องกันการสูญเสียธาตุอาหารอัน
เกิดจากการไหลบ่า หรือการระเหย
- การให้ปุ๋ยชีวภาพซึ่งได้จากการหมักหอยเชอรี่30 กก. เศษผลไม้ 10 กก. กากน้ำตาล 10 กก. เชื้อพด.
2 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร สูตรนี้สามารถใช้ฉีดพ่นทางใบ ในอัตรา 20 - 25 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตรได้ ในส่วนของ
การให้ทางระบบน้ำนั้น เทคนิคคือใช้ปุ๋ยชีวภาพในอัตรา 5 ลิตร ต่อน้ำ 1,250 ลิตร ให้ทุก 5 - 7 วัน โดยใน
การให้จะให้ครั้งละ 3 – 5 นาทีเพื่อให้กาบมะพร้าวบริเวณโคนต้นชุ่มก็พอ หลังจากนั้นก็ให้น้ำตาม รอบปกติ น้ำจะ
ค่อย ๆ ละลายธาตุอาหารลงไปให้ต้นมะนาวใช้ เป็นการจัดการที่ประหยัดปุ๋ย ใช้ปุ๋ยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

- ในระยะนี้ต้องรักษาใบและยอดให้ดี เนื่องจากมีโรค แมลงที่สำคัญเข้าทำลายในระยะยอดอ่อนถึงเพสลาดคือ เพลี้ยไฟ และโรคแคงเกอร์ ในเรื่องสารเคมีคุณพิชัยให้แนวคิดว่าบางระยะยังต้องมีการใช้อยู่ แต่ต้องเลือกใช้ในระยะที่
ปลอดภัยต่อผู้บริโภค คือใช้ในระยะก่อนเก็บเกี่ยวไม่น้อยกว่า 2 เดือน เนื่องจากแปลงเรียนรู้นี้ปลูกทั้งพันธุ์ตาฮิติ และพันธุ์แป้นคละกันไป พันธุ์แป้นอ่อนแอต่อโรคแคงเกอร์มาก
- หลักการใช้สารเคมีในแปลงมะนาว นอกจากเพลี้ยไฟ โรคแคงเกอร์แล้วยังมีโรคและศัตรูอื่น ๆ อีก เช่น หนอนชอนใบ หนอนกัดกินใบ แมลงค่อม โรคยางไหล โรคราเข้าขั้ว การเลือกใช้ชนิดของ
สารเคมีและระยะที่ใช้จึงมีความจำเป็น หากอยู่ในระยะที่ใช้สารเคมีได้ เพลี้ยไฟ และหนอนชอนใบมีสารเคมีที่ คุณพิชัยเลือกใช้ในการป้องกันกำจัดคือ อะบาแม็กติน อัตรา 3 – 10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ( ทั้งนี้อัตราการใช้แล้วแต่ความเข้มข้นของแต่ละบริษัทที่ผลิต ) หากพบการระบาดมากจะใช้สาร อิมิดาคลอพริด อัตรา 3 – 5 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร แมลงค่อมหรือด้วงปีกแข็งใช้สารคาร์โบซัลแฟน อัตรา 20 – 30 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร หรือไซเปอร์เมทริน อัตรา 5 – 10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร โรคราเข้าขั้วใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราแมนโคเซ็บ อัตรา 20 – 30 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือคาร์เบ็นดาซิม อัตรา 10 – 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร ความถี่ในการฉีดพ่น ทุก 7 - 15 วัน หรือแล้วแต่สภาพการระบาดของโรคแมลง นอกเหนือจาก
ระยะนี้แล้ว 2 เดือนก่อนเก็บเกี่ยว คุณพิชัยเลือกใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีฤทธิ์ไล่ และกำจัดแมลง โดยใช้น้ำหมักที่หมักจาก
สมุนไพรที่ มีรสเผ็ด ขม เหม็น เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด บอระเพ็ด สะเดา ใช้สมุนไพรดังกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่ง
30 กก. กากน้ำตาล 10 กก. พด. 7 จำนวน 25 กรัม ต่อน้ำ 30 ลิตร หมัก 20 วัน นำมาฉีดพ่นในอัตรา 25 ซีซีต่อน้ำ 20
ลิตรทุก 7 - 15 วัน
- เนื่องจากมะนาว มีอายุ ประมาณ 5 เดือนสามารถเก็บขายได้ในเดือนที่ 6 การวางแผนการบังคับให้ออกนอกฤดู คือต้องทำให้ออกดอก เดือนตุลาคม เดือนกันยายนต้องงดปุ๋ย งดน้ำ จากประสบการณ์ของคุณพิชัยจะเลือกใช้จังหวะฝนทิ้งช่วงประมาณ 7 – 15 วัน เป็นการงดน้ำไปในตัว เนื่องจากมะนาวแปลงนี้ 600 วง คุณพิชัยจัดการเพียง
คนเดียวจึงไม่สะดวกที่จะเลือกใช้พลาสติกคลุม เพราะพลาสติกก่อให้เกิดไอน้ำเกาะบริเวณผิวด้านในพลาสติก ลดความชื้น
ในดินยาก หากจะให้ได้ผลดี ในวันที่แดดออกต้องแกะพลาสติกออกให้น้ำระเหย หากฝนตกต้องคลุมพลาสติก เป็นการจัดการที่ยากในกรณีที่ไม่มีแรงงานเพียงพอ
- งดน้ำจนใบเหี่ยว สลด และหลุดร่วงประมาณ 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นให้น้ำตามปกติ ปุ๋ยเคมีที่ใช้เพื่อเปิดตาดอกในระยะนี้คือ ปุ๋ยที่มีตัวกลางสูงเช่น 12 – 24 – 12 หรือ 15 – 30 -15 ปริมาณ 1 กำมือต่อวงรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ปุ๋ยละลาย
- หลังติดดอกแล้วให้น้ำตามปกติเช้า – เย็น เวลาละ 5-10 นาที
- ปุ๋ยทางดินที่คุณพิชัยใช้ทดแทนปุ๋ยเคมี ตลอดฤดูการผลิตคือปุ๋ยอินทรีย์ที่หมักจากเศษพืช มูลสัตว์ กากหอยเชอรี่ เป็นการลดต้นทุนการผลิต ลดภาวะดินเสื่อมโทรม ปรับสภาพดินให้สมบูรณ์ อย่างยั่งยืน







วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ขั้นตอนการปลูกมะนาวนอกฤดู 

ขั้นตอนการปลูกมะนาวนอกฤดู มีดังนี้

ช่วงเดือนเมษายน หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว จะมีมะนาวบางส่วนที่ยังติดค้างอยู่ที่ต้นยังไม่ต้องเอาออกให้คงไว้แบบนั้นหรือเก็บเกี่ยวไปเรื่อยๆ ช่วงนี้มะนาวอย่าให้ขาดน้ำเป็นเด็ดขาดโดยให้น้ำทุกวันสำหรับมะนาวที่ปลูกในวงบ่อซีเมนต์พร้อมเติมดินที่ผสมปุ๋ยคอกลงไปให้เต็มวงด้วย และทุกๆ 3-4 วันสำหรับมะนาวที่ปลูกลงดิน โดยให้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 ต้นละ 3 กำมือ และสลับกับการให้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 (ใส่ห่างจากโคนต้น)ทุก 25 วัน โดยก่อนและหลังให้ปุ๋ยต้องรดน้ำให้ชุ่มเพื่อให้ได้ประสิทธิ์ภาพมากที่สุด และช่วงนี้ต้องรักษายอดมะนาวที่ออกใหม่อย่าให้มีเพลี้ยไฟหรือหนอนชอนใบเข้ามาทำลายยอดอ่อนมะนาวได้ หากมีดอกออกมาก็ให้ปลิดทิ้งเสียช่วงเดือนกรกฏาคม ต้นมะนาวจะสมบูรณ์สุดๆ สำหรับช่วงนี้ให้งดการให้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 และยังคงให้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 เหมือนเดิมแต่ให้ถี่ขึ้นคือ 20 วันต่อครั้งโดยลดจำนวนลงเหลือ 2 กำมือ ส่วนน้ำยังคงให้สม่ำเสมอเช่นเดิมแต่หากฝนตกก็ควรงดน้ำเพราะช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้ว เมื่อถึงปลายเดือนกรกฏาคม ให้ทำการตัดแต่งกิ่งทรงพุ่มออก ประมาณ 30% เน้นกิ่งที่ไขว้ไม่มีประโยชน์ หรือปลายกิ่งที่มีรอยเพลี้ยไฟหรือหนอนชอนใบทำลาย และให้เอาลูกที่ติดต้นทั้งหมดออก หากมีดอกก็ให้ปลิดทิ้งให้ต้นมะนาวว่าง ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ในช่วงนี้ จะเห็นว่ามะนาวจะแตกยอดอ่อนออกมามาก บางส่วนที่ไม่ได้ตัดแต่งกิ่งก็จะมีดอกออกมาบ้างก็ให้ทำการเด็ดทิ้งเช่นเดิม และเน้นพ่นยาเพื่อรักษายอดอ่อนให้ดี สำหรับเดือนนี้ทั้งเดือนให้ลด การให้ปุ๋ยเคมี 25-7-7 เหลือต้นละ 1 กำมือ แต่น้ำยังคงให้ตามปกติ ช่วงเดือนตุลาคม ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 ต้นละ3 กำมือ จำนวน 2 ครั้ง โดยห่างกัน 20 วัน หลังจากนั้นจะสังเกตุว่ามะนาวจะออกดอกมาเรื่อยๆซึ่งดอกที่ออกจะเป็นดอกคุณภาพดี คือออกมาพร้อมยอดอ่อน และออกมาจากซอกใบ จากนี้ไปให้บำรุงด้วยปุ๋ยเคมีสุตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 และทำการรักษาดอกมะนาวให้ดีโดยต้องระวังเชื้อราต่างๆเนื่องจากช่วงนี้อากาศเริ่มหนาวเย็นความชื้นสูง และจะได้มะนาวผลโตๆไว้จำหน่ายในช่วงหน้าแล้งที่ว่ากันว่ามะนาวแพงสุดๆ สำหรับวิธีนี้ เป็นการทดลองทำจากสวนของเราเมื่อปีที่ผ่านมาปรากฏว่าได้มะนาวดกมากแถมมะนาวผลใหญ่มากๆ จำหน่ายได้ราคาดีโดยมีมะนาวจะหน่ายตั้งแต่เดือนมีนาคม จนถึง เดือนกรกฏาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่มะนาวราคาที่เกษตรกรปลูกมะนาวพอใจในราคามะนาวมากที่สุด

การจัดผังปลูกมะนาว


การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์

รายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ จะต้องวัดพื้นที่ กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว วัดระยะการวางวงบ่อ การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำ แท็งก์จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้ 1,200 ลิตรจะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อ จำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน